วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2558

บุคคลสำคัญด้านดนตรีไทย

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
               พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี ประสูติเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2310 มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าชายฉิม เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก  ตลอดระยะเวลา 15 ปี ที่ทรงครองราชย์นั้น ประเทศไทยอยู่ในความสงบ ไม่มีการทำสงคราม พระมหากษัตริย์ทรงทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมในทุกๆด้านอย่างเต็มที่ นับได้ว่าในสมัยของพระองค์ศิลปวัฒนธรรมในทุกๆด้านเจริญถึงสุดขีด เป็นแบบอย่างจนถึงปัจจุบัน
               พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงโปรดดนตรีไทยมาก เครื่องดนตรีไทยที่ทรงโปรดเป็นพิเศษ คือ ซอสามสาย ทรงมีซอสามสายคู่พระหัตถ์อยู่คันหนึ่งชื่อว่า ซอสายฟ้าฟาด  ซึ่งจะทรงซอสามสายนี้ในเวลาว่างพระราชกิจ
               ในคืนหนึ่งหลังจากทรงซอสามสายแล้วเข้าได้ทรงพระสุบินว่าพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งปรากฏในพระสุบิตนิมิตนั้นว่า เป็นรมณียสถานสวยงามไม่มีแห่งใดในโลกเสมอเหมือน ขณะนั้นได้ทอดพระเนตรเห็นดวงจันทร์ลอยเข้ามาใกล้พระองค์และได้สาดแสงสว่างไปทั่วบริเวณ และในขณะนั้นได้ทรงสดับเสียงดนตรีทิพย์ ซึ่งมีความไพเราะเสนาะพระกรรณเป็นที่ยิ่ง พระองค์จึงเสด็จประทับทอดพระเนตรทิวทัศน์อันงดงาม และทรงสดับเสียงดนตรีอันไพเราะอยู่ด้วยความเพลิดเพลิน ครั้นแล้วดวงจันทร์ก็ค่อยๆลอยถอยห่างออกไปในท้องฟ้า ทั้งสำเนียงดนตรีทิพย์นั้นก็ค่อยๆจางจนหมดเสียง พลันก็ตื่นจากบรรทม
               แม้เสด็จตื่นจากบรรทมแล้วเสียงดนตรีในพระสุบินก็ยังก้องอยู่ในพระโสต จึงได้โปรดให้ตามเจ้าพนักงานดนตรีเข้ามาต่อเพลงที่ทรงพระสุบินนั้นไว้ แล้วพระราชทานชื่อว่า “เพลงบุหลันลอยเลื่อน” หรือ “บุหลันลอยฟ้า” หรือบางทีก็เรียกว่า “เพลงสรรเสริญพระจันทร์” ซึ่งนักดนตรีจำสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ประชาชนมักจะเรียกเพลงนี้ว่า “เพลงทรงพระสุบิน” เพลงนี้เคยใช้สรรเสริญพระบารมีสมัยหนึ่ง และเมื่อมีเพลงสรรเสริญพระบารมีทำนองอื่นเกิดขึ้นมาอีก เพลงนี้จึงเรียกกันว่า “เพลงสรรเสริญพระบารมีไทย”
เนื่องจากพระองค์ทรงพอพระทัยในดนตรีไทยโดยเฉพาะซอสามสาย ได้ประกาศให้ตราภูมิคุ้มห้าม ยกเว้นภาษีอากรให้แก่สวนมะพร้าว ชนิดที่ทำกระโหลกซอได้ เพราะมะพร้าวชนิดนี้หายากมากจึงทรงอนุรักษ์ไว้เป็นแบบอย่าง


ขอบคุณคะ
ชัญญากัญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น