สวัสดีคะทุกคนวันนี้มารู้จักคนสำคัญในตระกูลของเอิงกัน อ้าวสงสัยล่ะสิว่าจะรู้จักทำไม 555 เอิงอยากให้รู้จักอ่ะ เอิงไม่เคยรู้เรื่องของคนในตระกูลเท่าไหร่หรอกคะจนคุณแม่และคุณยายเล่าให้ฟังเมื่อนานมาแล้วว่าใครที่อยู่ในตระกูลเราบ้าง มีครั้งนึงเอิงไปสนามจันทร์ถ้าใครเคยไปจะนึกออกว่ามันจะมีทางเชื่อมตึกใช่ไหมคะแล้วระหว่างทางเดินก็จะมีรูปติดอยู่ที่ฝาพนัง สำคัญตรงที่ว่ามีรูปคนในตระกูลเอิงอยู่ด้วยคะ ถ้าใครอยากรู้ว่ารูปไหนก็ไปหารูปที่มีรถอ่ะเอิงอธิบายไม่ถูกแต่ถ่ายคู่กะรถอ่ะเอิงจำได้ 555 งั้นไปรู้จักตระกูลเอิงกันเลยยยย
พระยาอนิรุทธเทวา
(หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ)
นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ดำรงตำแหน่ง
พ.ศ. 2468 – พ.ศ. 2471
กษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ก่อนหน้า พระยานเรนทรราชา (หม่อมหลวงอุรา คเนจร)
ถัดไป พระเจริญวิศวกรรม (เจริญ เชนะกุล)
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2436
เสียชีวิต 11 มกราคม พ.ศ. 2494 (58 ปี)
บ้านบรรทมสินธุ์ เทเวศร์ กรุงเทพฯ
บิดา พระยาประสิทธิ์ศุภการ (หม่อมราชวงศ์ละม้าย พึ่งบุญ)
มารดา พระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา
คู่สมรส คุณหญิงเฉลา อนิรุทธเทวา
บุตร นางงามเฉิด อนิรุทธเทวา
คุณหญิงงามฉลวย บุนนาค
พลเอก เฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา
(หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ)
พ.ศ. 2468 – พ.ศ. 2471
บ้านบรรทมสินธุ์ เทเวศร์ กรุงเทพฯ
คุณหญิงงามฉลวย บุนนาค
พลเอก เฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา
ประวัติ
มหาเสวกเอก พลตรี พระยาอนิรุทธเทวา นามเดิม หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2436 เป็นบุตร ของ พระยาประสิทธิ์ศุภการ ( หม่อมราชวงศ์ละม้าย พึ่งบุญ ) และ พระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา พระนมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ท่านมีพี่-น้อง ร่วมมารดา ดังนี้
- ท้าวอินทรสุริยา ( หม่อมหลวงหญิงเชื้อ พึ่งบุญ )
- พลเอก พลเรือเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ)
- พระยาอนิรุทธเทวา
- หม่อมหลวงหญิงถนอม พึ่งบุญ
ได้เข้ารับการศึกษาในสำนักเรียนวัดมหาธาตุ เป็นขั้นแรก จนจบหลักสูตรชั้น 1 จากนั้น มารดาจึงนำขึ้นถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อยังทรงดำรงพระอิสริยยศ เป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ณ พระราชวังสราญรมย์ ได้เป็นมหาดเล็กห้องบรรทม ในขั้นแรก เมื่อ พ.ศ. 2449 ต่อมารับราชการจนเป็นที่พอพระราชหฤทัย จนได้รับการเลื่อนตำแหน่งเรื่อยมา คือ
ตำแหน่งในราชการ
- วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2453 เป็นนายรองขัน หุ้มแพร
- วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2454 เป็นนายสุนทรมโนมัย
- วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2455 เป็นจ่ายง
- วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2456 เป็นหลวงศักดิ์นายเวร
- วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2457 เป็นเจ้าหมื่นศรีสรรักษ์
- วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2459 เป็น พระยาอนิรุทธเทวา
ตำแหน่งในราชการ คงรับราชการในตำแหน่งห้องพระบรรทมตลอดมา จนได้เป็นจางวางห้องที่พระบรรทม ภายหลัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นอธิบดีกรมมหาดเล็ก และผู้บัญชาการกรมมหรสพ และคงดำรงตำแหน่งนี้โดยตลอด จนออกจากราชการ เพราะยุบเลิกและเปลี่ยนตำแหน่งหน้าที่ราชการในกรมมหาดเล็ก เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2469
พระยาอนิรุทธเทวา มีความสามารถทางนาฏศิลป์ ในตัวพระลักษมณ์ ได้รับการฝึกหัดท่าละคร จาก พระยานัฏกานุรักษ์ ( ทองดี สุวรรณภารต ) ครูละครผู้ใหญ่ และยังมีความสามารถในการแสดงละครพูด ละครร้อง อันเป็นบทพระราชนิพนธ์ด้วย การแสดงละครร้อง ละครพูด นั้น ท่านมักรับบทเป็นตัวนาง
ภายหลังเมื่อออกจากราชการแล้ว พระยาอนิรุทธเทวา คงใช้ชีวิตอยู่กับการบำรุงนาฏศิลป์ มหรสพ ท่านมีคณะละครเป็นส่วนตัวของท่านเองคณะหนึ่ง ชื่อว่า "คณะละครบรรทมสินธุ์" ( ตามชื่อบ้านของท่าน ) และยังได้ช่วยเหลือดูแล คณะละคร ของ ท่านเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ ในรัชกาลที่ 5 อีกส่วนหนึ่งด้วย ภายหลังท่านจึงรับมรดกละครทั้งหมด มาดูแล เมื่อ ท่านเจ้าคุณพระประยูรวงศ์ ถึงพิราลัย ใน พ.ศ. 2486 ซึ่งคณะละครทั้งสองนี้ ได้ก่อกำเนิดบุคคลสำคัญทางวงการนาฏศิลป์เพิ่งขึ้นหลายท่าน บางท่านภายหลังยังได้มารับราชการในกรมศิลปากรต่อมา
ถือได้ว่า พระยาอนิรุทธเทวา เป็นบุคคลสำคัญท่านหนึ่ง ที่ได้อุปถัมภ์บำรุงนาฏศิลป์ไทยในช่วงที่กำลงตกต่ำ คือ ช่วงหลังสิ้นรัชกาลที่ 6 , หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ตลอดจนช่วงรัฐนิยม ของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ให้ดำรงอยู่ไม่เสื่อมสูญไปจากสังคมไทย จนกระทั่ง เมื่อกรมศิลปากรเริ่มฟื้นฟูการแสดงนาฏศิลป์ให้ประชาชนชมอีกครั้ง หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านก็อุตสาห ไปชมการแสดง และ ช่วยวิจารณ์ในข้อบกพร่องในการแสดง ให้กับกรมศิลปากรอีกหลายครั้ง
ครอบครัว
ด้านชีวิตครอบครัว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้าฯ สมรสพระราชทาน กับ คุณหญิงเฉลา อนิรุทธเทวา ท.จ. เมื่อ พ.ศ. 2467 มีบุตร-ธิดา ร่วมกัน 3 คน คือ
- นางงามเฉิด อนิรุทธเทวา
- คุณหญิงงามฉลวย บุนนาค
- พลเอก เฟื่องเฉลย อนิรุทธเทวา
ปัจฉิมวัย
บั้นปลายชีวิต พระยาอนิรุทธเทวา ได้ป่วยด้วยโรคหัวใจพิการ อาการได้ทรุดลงตลอดมา จนถึงแก่อนิจกรรม ณ บ้านบรรทมสินธุ์ เทเวศร์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2494 เวลา 9.20 น. รวมอายุได้ 58 ปี
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
- พ.ศ. 2459 - ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.)[1]
- มหาวชิรมงกุฏ (ม.ว.ม.)
- ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)
- เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 6 ชั้นที่ 1
เป็นไงกันบ้างคะยังๆๆไม่ได้มีแค่คนเดียวนะไปดูอีกคนกันในบล็อกหน้านะคะ
ขอบคุณคะ
ชัญญากัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น