ประเทศอินเดีย
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สาธารณรัฐอินเดีย
Republic of India (อังกฤษ)
भारत गणराज्य (ฮินดี) | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|
| ||||||
คำขวัญ: สตฺยํเอว ชยเต (सत्यमेव जयते) "ความจริงเท่านั้นจักมีชัย" | ||||||
เพลงชาติ: ชนะ คณะ มนะ (जन ग़ण मन, ชน คณ มน) "ดวงใจแห่งผองชน" | ||||||
| ||||||
เมืองหลวง | นิวเดลี 28°34′N 77°12′E | |||||
เมืองใหญ่สุด | มุมไบ | |||||
ภาษาราชการ | ภาษาฮินดีและภาษาอังกฤษ ดูเพิ่มได้ที่ ภาษาราชการของอินเดีย | |||||
การปกครอง | สหพันธ์สาธารณรัฐ | |||||
- | ประธานาธิบดี | ปรณัพ มุขชี | ||||
- | นายกรัฐมนตรี | นเรนทระ โมที | ||||
เอกราช | จาก สหราชอาณาจักร | |||||
- | ประกาศ | 15 สิงหาคม พ.ศ. 2490 | ||||
- | สาธารณรัฐ | 26 มกราคม พ.ศ. 2493 | ||||
พื้นที่ | ||||||
- | รวม | 3,287,590 ตร.กม. (7) 1,269,346 ตร.ไมล์ | ||||
- | แหล่งน้ำ (%) | 9.56 | ||||
ประชากร | ||||||
- | 2555 (ประเมิน) | 1,222,650,000 (2) | ||||
- | 2544 (สำมะโน) | 1,027,015,247 | ||||
- | ความหนาแน่น | 329 คน/ตร.กม. (31) 852 คน/ตร.ไมล์ | ||||
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2549 (ประมาณ) | |||||
- | รวม | 3.77 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (4) | ||||
- | ต่อหัว | 3,344 ดอลลาร์สหรัฐ (122) | ||||
HDI (2550) | 0.612 (กลาง) (134) | |||||
สกุลเงิน | รูปี (Rs.)1 (INR ) | |||||
เขตเวลา | IST (UTC+5:30) | |||||
- | (DST) | not observed (UTC+5:30) | ||||
ระบบจราจร | ซ้ายมือ | |||||
โดเมนบนสุด | .in | |||||
รหัสโทรศัพท์ | 91 | |||||
1 Re. เป็นเอกพจน์ |
ประเทศอินเดีย (อังกฤษ: India; ฮินดี: भारत) หรือชื่อทางการว่า สาธารณรัฐอินเดีย (อังกฤษ: Republic of India; ฮินดี: भारत गणराज्य) ตั้งอยู่ในทวีปเอเชียใต้ เป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของอนุทวีปอินเดีย มีประชากรมากเป็นอันดับที่สองของโลก และเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีประชากรมากที่สุดในโลก โดยมีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคน มีภาษาพูดแปดร้อยภาษาโดยประมาณ ด้านเศรษฐกิจ อินเดียมีอำนาจการซื้อมากเป็นอันดับที่สี่ของโลก ทั้งนี้ อาณาเขตทางทิศเหนือติดกับจีน เนปาล และภูฏาน ทางตะวันตกเฉียงเหนือติดกับปากีสถาน ทางตะวันออกติดพม่า ทางตะวันตกเฉียงใต้จรดมหาสมุทรอินเดีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ติดศรีลังกา ล้อมรอบบังกลาเทศทางทิศเหนือ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก และด้วยพื้นที่ 3,287,590 ตารางกิโลเมตร อินเดียจึงเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 7 ของโลก
เนื้อหา
[ซ่อน]ภูมิศาสตร์[แก้]
ประเทศอินเดียเกิดขึ้นบนอนุทวีปอินเดียน (Indian subcontinent) ซึ่งตั้งอยู่บนบริเวณแผ่นเปลือกโลกอินเดีย (Indian tectonic plate) ซึ่งในอดีตนั้นเคยเชื่อมอยู่กับแผ่นออสเตรเลีย การรวมตัวทางภูมิศาสตร์ครั้งสำคัญของประเทศอินเดียนั้นเกิดขึ้นราว 75 ล้านปีก่อน เมื่ออนุทวีปอินเดียซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของมหาทวีปแห่งตอนใต้ คือ มหาทวีปกอนด์วานา (Gondwana) ได้เริ่มเคลื่อนตัวขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านที่บริเวณมหาสมุทรอินเดียซึ่งในขณะนั้นยังไม่เกิดขึ้น โดยกินเวลารวมทั้งหมดประมาณ 55 ล้านปี หลังจากนั้นอนุทวีปอินเดียนได้ชนเข้ากับแผ่นทวีปยูเรเชีย อันเป็นที่มาของการเกิดเทือกเขาที่มีความสูงที่สุดในโลก คือ เทือกเขาหิมาลัย ซึ่งอยู่บริเวณภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ตอนใต้ของเทือกเขาซึ่งเคยเป็นท้องทะเลอันกว้างขวางได้ค่อยๆกลายมาเป็นผืนดินราบลุ่มแม่น้ำอันกว้างใหญ่ ทำให้เกิดเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาตอนเหนือของอินเดีย (Indo-Gangetic Plain) ทางภาคตะวันตกนั้นติดกับทะเลทรายธาร์ ซึ่งถูกกั้นกลางด้วยทิวเขาอะราวัลลี
อนุทวีปอินเดียนนั้นได้คงอยู่จนกลายมาเป็นคาบสมุทรอินเดียในปัจจุบัน ซึ่งจัดเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดทางธรณีวิทยา และยังเป็นบริเวณที่มีความคงที่ทางภูมิศาสตร์ที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย โดยกินพื้นที่กว้างขวางจรดเทือกเขาสัทปุระ (Satpura)ทางตอนเหนือ และเทือกเขาวินธยะ (Vindhya) ในภาคกลางของอินเดีย โดยมีลักษณะคู่ขนานกันไปจรดชายฝั่งทะเลอาหรับในรัฐคุชราตทางทิศตะวันตก และที่ราบสูงโชตนาคปุระ (Chota Nagpur Plateau) ที่เต็มไปด้วยแร่ถ่านหินในรัฐฌาร์ขัณฑ์ทางทิศตะวันออก ส่วนทิศใต้นั้นประกอบด้วยแผ่นดินคาบสมุทรบนที่ราบสูงเดคคาน (Deccan Plateau) ซึ่งถูกขนาบโดยเทือกเขาริมทะเลทั้งสองฝั่งที่เรียกว่า เทือกเขากัทส์ทิศตะวันตก และตะวันออก(Western and Eastern Ghats) ในบริเวณนี้จะพบหินที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดในอินเดีย ซึ่งมีอายุถึง 1 พันล้านปี
ชายฝั่งของอินเดียนั้นมีระยะทางประมาณ 7,517 กิโลเมตร (4,700 ไมล์) แบ่งเป็นระยะทางบนคาบสมุทรอินเดีย 5,423 กิโลเมตร (3,400 ไมล์) และ 2,094 กิโลเมตร (1,300 ไมล์) ในหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์และลักษทวีป จากแผนที่ทะเลของอินเดียนั้น ชายฝั่งบนแผ่นดินใหญ่ของอินเดียประกอบด้วยหาดทรายถึง 43% กรวดและหิน 11% รวมถึงหน้าผา และ 46% เป็นดินเลนและโคลน
แม่น้ำในอินเดียแบ่งออกได้เป็นสี่ประเภทคือ แม่น้ำจากเทือกเขาหิมาลัย แม่น้ำคาบสมุทรเดคคาน แม่น้ำชายฝั่ง และแม่น้ำในดินแดนภายในแม่น้ำหิมาลัย ปกติจะเกิดจากน้ำที่ละลายมาจากหิมะ ในภาคเหนือของอินเดีย ดังนั้น แม่น้ำเหล่านี้จะมีน้ำไหลเต็มที่อยู่ตลอดเวลา และมีความลาดชันค่อนข้างต่ำ ในฤดูมรสุมเมื่อฝนตกมาก แม่น้ำเหล่านี้จะรับน้ำไว้ได้ไม่หมด จึงทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่อยู่เสมอ ส่วนแม่น้ำในคาบสมุทรเดคคาน โดยปกติได้น้ำจากน้ำฝน ดังนั้นปริมาณน้ำในแม่น้ำดังกล่าว จึงมักจะมากน้อยไม่แน่นอน อีกทั้งมีความลาดชันลดหลั่นลง จึงรับน้ำได้มาก และช่วยระบายน้ำในฤดูมรสุมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำย่อย ๆ ซึ่งไม่มีต้นกำเนิดจากแม่น้ำทั้งสองประเภทดังกล่าว และอยู่ตามชายฝั่งโดยเฉพาะในฝั่งตะวันตก จะมีเส้นทางสั้น ๆ และมีขนาดแคบ จึงรับน้ำได้ในปริมาณจำกัด สำหรับแม่น้ำในดินแดนภายใน เป็นลำน้ำเล็ก ๆ ไม่มีทางออกทะเล ปลายทางของแม่น้ำหากไม่ไหลลงแอ่งน้ำ ทะเลสาบ ก็จะเหือดแห้งไปในทะเลทรายธาร์
ระบบแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในอินเดียคือ แม่น้ำคงคา (Ganges) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัย แม่น้ำสาขาในระบบแม่น้ำคงคาคือแม่น้ำยมนา แม่น้ำกากรา แม่น้ำกันดัค และแม่น้ำโคสิ บริเวณผืนดินที่ราบลุ่มแม่น้ำคงคาจัดได้ว่ามีความอุดสมบูรณ์ และกว้างใหญ่ที่สุด โดยเป็นบริเวณกว้างถึงหนึ่งในสี่ของประเทศ นอกจากนั้นยังมีแม่น้ำพรหมบุตร ซึ่งมีความสำคัญรองลงมา มีสาขามากมาย ซึ่งไหลผ่านพื้นที่ส่วนใหญ่ของอินเดีย โดยไปสุดที่อ่าวเบงกอลเช่นเดียวกับแม่น้ำคงคา
ส่วนลุ่มน้ำของระบบแม่น้ำอื่น ๆ ที่มีความสำคัญ รองลงมาได้แก่ ลุ่มแม่น้ำโคธาวารี (Godavari) ในเขตที่ราบสูงเดคคาน ระบบน้ำตาปี (Tapi) ในภาคเหนือ และระบบน้ำเพนเนอร์ (Penner) ในภาคใต้ การที่อินเดียถูกแวดล้อมด้วยพรมแดนธรรมชาติรอบด้าน คือมีทั้งภูเขาและฝั่งทะเลเป็นพรมแดน ได้แยกอินเดียออกจากส่วนอื่น ๆ ของทวีปเอเชีย ทำให้อินเดียตั้งอยู่โดดเดี่ยวตามลำพัง ซึ่งนับว่ามีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อวิถีชีวิตของชาวอินเดีย ทำให้ชาวอินเดียมีอารยธรรมและวัฒนธรรมที่มีลักษณะของตนเองโดยเฉพาะ และในโอกาสเดียวกัน พรมแดนธรรมชาติดังกล่าว ช่วยให้สามารถรักษาวัฒนธรรมของตนให้สืบเนื่องตลอดมาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงสมัยปัจจุบัน
สภาพอากาศของอินเดียนั้นได้รับอิทธิพลจากสองแหล่งใหญ่ๆ คือเทือกเขาหิมาลัย และทะเลทรายธาร์ ทำให้มีทั้งฤดูร้อนอันอบอุ่น และฤดูหนาวที่มีมรสุม เทือกเขาหิมาลัยนั้นมีบทบาทมากในการป้องกันลมพัดลงลาดเขา (Katabatic wind) ทำให้บริเวณส่วนใหญ่ของประเทศนั้นอบอุ่นกว่าประเทศอื่นๆที่ตั้งอยู่ในละติจูดเดียวกัน ส่วนทะเลทรายธาร์นั้นก็มีบทบาทในการขับเคลื่อนความชื้นของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งลมมรสุมนี้เองที่ทำให้ทุกปีๆระหว่างเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมนั้นมีฝนตกในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ
จากการแบ่งเขตภูมิอากาศนั้น อินเดียประกอบด้วยภูมิอากาศหลักๆ 4 แบบได้แก่ แบบเขตร้อนชื้น (tropical wet), แบบเขตร้อนแห้งแล้ง (tropical dry), แบบอบอุ่นชื้น (subtropical humid), และแบบเทือกเขาสูง (montane)
ประมาณ 1,500 ปีก่อนคริสตกาล ชาวดราวิเดียน ชาวอารยัน เริ่มกำเนิดอารยธรรมต่าง ๆ ในลุ่มแม่น้ำสินธุ ต่อมาในสมัย อาณาจักรเมารยะ ซึ่งมีดินแดนในตอนเหนือตั้งแต่ลุ่มแม่น้ำสินธุจรดอ่าวเบงกอลพระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างความรุ่งเรืองในการปกครองและได้สนับสนุนการเผยแผ่พุทธศาสนา ในสมัยราชวงศ์โมกุลมีการขยายอิทธิพล วัฒนธรรมโมกุลอย่างกว้างขวาง ในด้านการปกครองภาษาศิลปะสถาปัตยกรรมและศาสนาอิสลาม อังกฤษเริ่มมามีอิทธิพลในอนุทวีป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 17 เพื่อค้าขายและครอบครองดินแดนและแทรกแซงในการเมืองท้องถิ่น จนกระทั่งอินเดียตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ หลังจากการรณรงค์ต่อต้านการปกครองของอังกฤษมาเป็นเวลานาน อินเดียจึงได้รับเอกราช และได้รับการสถาปนาเป็นสาธารณรัฐอินเดีย
การเมืองการปกครอง[แก้]
บริหาร[แก้]
ดูบทความหลักที่: รัฐบาลอินเดีย
คณะรัฐมนตรี มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะรัฐบาล
- ประธานาธิบดี นายประณับ มุกเคอร์จี (Pranab Kumar Mukherjee) ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 13
- นายกราชยสภา นายกฤษาณ กันต์ (Krishan Kant) รองประธานาธิบดี ทำหน้าที่นายกราชยสภาโดยตำแหน่ง
- นายกโลกสภา นายคานตี โมหัน พลโยคี (Ganti Mohana Balayogi) (เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 1999)
- นายกรัฐมนตรี นายมานโมฮัน ซิงห์ (Manmohan Singh)
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายชสวันต์ สิงห์ (Jaswant Singh), เข้ารับตำแหน่งเมื่อ 13 ตุลาคม ค.ศ. 1999
- โครงสร้างการปกครอง
กระทรวง[แก้]
ประเทศอินเดียมีกระทรวงอยู่ทั้งหมด 38 กระทรวง (รวมทั้งส่วนราชการเทียบเท่า) ดังต่อไปนี้
กระทรวง | ชื่อภาษาอังกฤษ | อักษรย่อ | |
---|---|---|---|
1 | กระทรวงบุคลากร การรับการร้องทุกข์ และบำเหน็จบำนาญ | Ministry of Personnel, Public Grievances and Pensions | |
2 | กระทรวงกิจการที่อยู่อาศัย | Ministry of Home Affairs | |
3 | กระทรวงการต่างประเทศ | Ministry of External Affairs | |
4 | กระทรวงกิจการอินเดียโพ้นทะเล | Ministry of Overseas Indian Affairs | MOIA |
5 | กระทรวงการคลัง | Ministry of Finance | |
6 | กระทรวงกลาโหม | Ministry of Defence | |
7 | กระทรวงสารสนเทศและการกระจายเสียง | Ministry of Information and Broadcasting | |
8 | กระทรวงการขนส่งทางราง | Ministry of Railways | |
9 | กระทรวงการพัฒนาเมือง | Ministry of Urban Development | |
10 | กระทรวงการเคหะและการบรรเทาความยากจนในเมือง | Ministry of Housing and Urban Poverty Alleviation | |
11 | กระทรวงกิจการรัฐสภา | Ministry of Parliamentary Affairs | |
12 | กระทรวงการขน่สงทางถนนและทางหลวง | Ministry of Road Transport and Highways | |
13 | กระทรวงการขนส่งทางเรือ | Ministry of Shipping | |
14 | กระทรวงกฎหมายและยุติธรรม | Ministry of Law and Justice | |
15 | กระทรวงทรัพยากรน้ำ การพัฒนาแม่น้ำ และการฟื้นฟูแม่น้ำคงคา | Ministry of Water Resources, River Development and Ganga Rejuvenation | |
16 | กระทรวงกิจการชนกลุ่มน้อย | Ministry of Minority Affairs | |
17 | กระทรวงการพัฒนาชนบท | Ministry of Rural Development | |
18 | กระทรวงการกระจายอำนาจและการปกครองส่วนท้องถิ่นในรัฐ | Ministry of Panchayati Raj | |
19 | กระทรวงน้ำดื่มและสุขาภิบาลอนามัย | Ministry of Drinking Water and Sanitation | |
20 | กระทรวงกิจการผู้บริโภค อาหาร และการจัดจำหน่ายสาธารณะ | Ministry of Consumer Affairs, Food and Public Distribution | |
21 | กระทรวงวิสาหกิจในครัวเรือน ขนาดเล็กและขนาดกลาง | Ministry of Micro, Small and Medium Enterprises | |
22 | กระทรวงสตรีและการพัฒนาเด็ก | Ministry of Women and Child Development | |
23 | กระทรวงสารเคมีและปุ๋ย | Ministry of Chemicals and Fertilizers | |
24 | กระทรวงการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ | Ministry of Communications and Information Technology | |
25 | กระทรวงการบินพลเรือน | Ministry of Civil Aviation | |
26 | กระทรวงอุตสาหกรรมหนักและรัฐวิสาหกิจ | Ministry of Heavy Industries and Public Enterprises | |
27 | กระทรวงการประมวลผลอุตสาหกรรมอาหาร | Ministry of Food Processing Industries | |
28 | กระทรวงเหมืองแร่ | Ministry of Mines | |
29 | กระทรวงเหล็ก | Ministry of Steel | |
30 | กระทรวงแรงงานและการจ้างงาน | Ministry of Labour and Employment | |
31 | กระทรวงกิจการชนเผ่า | Ministry of Tribal Affairs | |
32 | กระทรวงเกษตร | Ministry of Agriculture | |
33 | กระทรวงความยุติธรรมทางสังคมและการเพิ่มขีดความสามารถ | Ministry of Social Justice and Empowerment | |
34 | กระทรวงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ | Ministry of Human Resource Development | |
35 | กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | Ministry of Science and Technology | |
36 | กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัว | Ministry of Health and Family Welfare | |
37 | กรมพลังงานปรมาณู | Department of Atomic Energy | DAE |
38 | กรมอวกาศ | Department of Space | DoS |
นิติบัญญัติ[แก้]
ดูบทความหลักที่: รัฐสภาแห่งอินเดีย
ระบบรัฐสภา ประกอบด้วยราชยสภา (Rajya Sabha) เป็นสภาสูง มีสมาชิกจำนวน 245 คน สมาชิกส่วนใหญ่ มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม อีกส่วนมาจากการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี และโลกสภา (Lok Sabha) เป็นสภาล่าง มีสมาชิกจำนวน 545 คน สมาชิกจำนวน 543 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงและอีก 2 คน มาจากการคัดเลือกของประธานาธิบดี จากกลุ่มอินโด-อารยันในประเทศอยู่ในวาระคราวละ 5 ปี เว้นเสียแต่จะมีการยุบสภา
ตุลาการ[แก้]
ดูบทความหลักที่: กฎหมายอินเดีย
ศาลอินเดียแบ่งเป็นสามชั้น ประกอบด้วย ศาลสูงสุด (Supreme Court) นำโดย ประธานศาลสูงสุดแห่งอิงเดีย (Chief Justice of India), ศาลสูง (High Courts) ยี่สิบเอ็ดศาล เป็นศาลชั้นอุทธรณ์ และศาลชั้นต้นอีกจำนวนมาก ศาลสูงสุดมีเขตอำนาจชำระคดีเกี่ยวกับสิทธิขั้นพื้นฐาน, ข้อพิพาทระหว่างรัฐบาลท้องถิ่นกับส่วนกลาง และคดีที่อุทธรณ์มาจากศาลสูง กับทั้งการตีความรัฐธรรมนูญ
- การปกครอง ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ และเป็นประมุขของฝ่ายบริหาร แต่อำนาจการบริหารที่แท้จริงอยู่ที่นายกรัฐมนตรีอำนาจ การปกครองแบ่งเป็นรัฐต่าง ๆ 25 รัฐ และดินแดนสหภาพของรัฐบาลกลาง (Union Territories) อีก 7 เขต ขณะนี้ (มกราคม 2544) โลกสภาได้เห็นชอบร่างรัฐบัญญัติในการจัดตั้งรัฐใหม่ 3 รัฐ คือ รัฐฉัตติสครห์ (Chattisgarh) รัฐอุตตรานจัล (Uttaranchal) และรัฐฌาร์ขันท์ (Jharkhand) ซึ่งแยกออกจากรัฐมัธยประเทศ รัฐอุตตรประเทศ และรัฐพิหาร ตามลำดับ
การเมืองภายใน[แก้]
อินเดียมีการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นสมัยที่ 13 เมื่อวันที่ 5 กันยายน - 3 ตุลาคม พ.ศ. 2542 ภายหลังจากที่รัฐบาลชุดก่อนของนายกรัฐมนตรี อตล เพหารี วัชปายี (Atal Behari Vajpayee) ได้แพ้การพิสูจน์เสียงข้างมาก (Vote of Confidence) ในโลกสภาเพียง 1 เสียง เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2542 เนื่องจากพรรค All India Anna Dravida Munnetra Kazagham (AIADMK) ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลได้ประกาศถอนการสนับสนุนรัฐบาลผสมของนายวัชปายี อย่างไรก็ดี ผลการเลือกตั้งปรากฏว่านายวัชปายี ผู้นำพรรคภารติยชนตะ (Bharatiya Janata Party : BJP) ซึ่งร่วมกับพรรคการเมืองอื่น ๆ อีก 25 พรรค ในนามพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (National Democratic Alliance : NDA) ได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด ส่งผลให้นายวัชปายีเข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอินเดียอีกสมัย โดยได้กระทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2542 มีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎร (โลกสภา) อินเดีย ทั้งสิ้น 296 เสียง จากจำนวนเสียงทั้งหมด 543 เสียง ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันของอินเดียเป็นรัฐบาลผสมเสียงข้างมาก ซึ่งนับว่ามีฐานเสียงแข็งแกร่งกว่าเดิม (ครั้งที่แล้ว พรรค BJP และพันธมิตรจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยด้วยคะแนนเสียง 264 เสียง) ส่วนพรรคคองเกรส และพรรคพันธมิตรได้รับคะแนนเสียงเพียง 133 เสียงเท่านั้น (พรรคคองเกรสพรรคเดียวได้ 112 เสียง) ซึ่งนับว่าเป็นคะแนนเสียงที่ต่ำที่สุดในรอบ 50 ปีของประวัติศาสตร์การเมืองของพรรคคองเกรส ส่งผลให้พรรคคองเกรสและพันธมิตรเป็นพรรคฝ่ายค้าน
การแบ่งเขตการปกครอง[แก้]
อินเดียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 29 รัฐ (States) (ซึ่งแบ่งย่อยลงเป็นเขต) และ 7 ดินแดนสหภาพ (Union Territories) ได้แก่
รัฐ
|
|
ดินแดนสหภาพ
|
กองทัพ[แก้]
ดูบทความหลักที่: กองทัพอินเดีย
กองกำลังกึ่งทหาร[แก้]
เศรษฐกิจ[แก้]
โครงสร้างเศรษฐกิจ[แก้]
สถานการณ์เศรษฐกิจ[แก้]
- อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์ภายในประเทศเบื้องต้น (GDP Growth) ร้อยละ 5.8 (พ.ศ. 2543)
- รายได้ประชาชาติเบื้องต้นต่อหัว (per – capita GNP) 415 ดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2542)
- เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (รวมมูลค่าทองคำ) (พ.ศ. 2543)
- ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ 1,760 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (สิงหาคม พ.ศ. 2542) ...-.513
- อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย ร้อยละ 6.0 (พ.ศ. 2543)
- ดุลการค้า อินเดีย – โลก ขาดดุล 17.10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (กันยายน พ.ศ. 2543)
- มูลค่าการส่งออก 21.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เมษายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2543)
- มูลค่าการนำเข้า 38.80 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (เมษายน-กรกฎาคม พ.ศ. 2543)
- การลงทุนของต่างชาติระหว่างปี พ.ศ. 2541 – 2542 2.46 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
- มูลค่าตลาดทุน 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (พ.ศ. 2543) ประเทศคู่ค้าสำคัญ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ซาอุดีอาระเบีย และสหราชอาณาจักร สินค้าออกที่สำคัญ อัญมณี และกึ่งอัญมณี ไข่มุก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ชา และกาแฟ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าเข้าที่สำคัญ น้ำมันปิโตรเลียม เครื่องจักร อัญมณีและกึ่งอัญมณี แร่เหล็ก และน้ำมันพืช
การท่องเที่ยว[แก้]
ดูบทความหลักที่: การท่องเที่ยวในอินเดีย
ประชากรศาสตร์[แก้]
เชื้อชาติ[แก้]
ประชากรอินเดียมีประมาณ 1,000 ล้านคน โดยมีเชื้อชาติ อินโด-อารยัน ร้อยละ 72 ดราวิเดียน ร้อยละ 25 มองโกลอยด์ ร้อยละ 2 และอื่น ๆ ร้อยละ 1 อัตราการเพิ่มของประชากร ร้อยละ 1.8 พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) และอัตราการรู้หนังสือ ร้อยละ 52.1
ภาษา[แก้]
ดูบทความหลักที่: ภาษาราชการของอินเดีย
อินเดียมีประชากรกว่า 1,100 ล้านคน ประชากรเหล่านี้มีความแตกต่างทางด้านชาติพันธุ์ และวัฒนธรรม มีภาษาหลักใช้พูดถึง 16 ภาษา เช่น ภาษาฮินดี ภาษาอังกฤษ ภาษาเบงกาลี ภาษาอูรดู ฯลฯ และมีภาษาถิ่นมากกว่า 100 ภาษา ภาษาฮินดี ถือว่าเป็นภาษาประจำชาติ เพราะคนอินเดียกว่าร้อยละ 30 ใช้ภาษานี้ คนอินเดียที่อาศัยอยู่รัฐทางตอนเหนือและรัฐทางตอนใต้นอกจากจะใช้ภาษาที่แตกต่างกันแล้ว การแต่งกาย การรับประทานอาหารก็แตกต่างกันออกไปด้วย
ศาสนา[แก้]
เนื่องจากประเทศอินเดียเป็นแหล่งกำเนิดพระศาสนาที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ ศาสนาพราหมณ์ และ พระพุทธศาสนา ชาวอินเดียจึงถือว่าครอบครัวเป็นสถาบันทางสังคมที่มีความสำคัญที่สุด ระบบครอบครัวของอินเดียเป็นระบบครอบครัวร่วม หรือครอบครัวขนาดใหญ่ สมาชิกในครอบครัวประกอบด้วย ปู่ ย่า พ่อ แม่ ลูก หลาน และ เหลน อยู่ร่วมกันภายในครอบครัวเดียว ผู้อาวุโสที่สุดของฝ่ายชายจะเป็นหัวหน้าครอบครัว แม้สังคมของอินเดียยังคงมีความนับถือเรื่องวรรณะอยู่ แต่ก็ปรากฏไม่มากเท่าอดีต การดำเนินชีวิตของชาวอินเดียจะยึดถือศาสนาเป็นสิ่งสำคัญ กว่าร้อยละ 79 ของประชากรนับถือศาสนาฮินดู ร้อยละ 15 นับถือศาสนาอิสลาม ที่เหลือร้อยละ 2.5 นับถือศาสนาคริสต์ นอกนั้นนับถือศาสนาพุทธส่วนมากอยู่ลาดัก หิมาจัล สิกขิม อัสสัม เบงกอลตะวันตก และโอริสสา ศาสนาซิกข์ในรัฐปัญจาบ และศาสนาเชนในรัฐคุชรัต และอื่น ๆ รวมทั้งพวกนักบวชที่นับถือนิกายต่าง ๆ อีกมากมาย มีประมาณ 400 ศาสนาทั่วอินเดีย
โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]
การคมนาคม และ โทรคมนาคม[แก้]
เส้นทางคมนาคม[แก้]
โทรคมนาคม[แก้]
การศึกษา[แก้]
ดูบทความหลักที่: การศึกษาในประเทศอินเดีย
สาธารณสุข[แก้]
ดูบทความหลักที่: สาธารณสุขในประเทศอินเดีย
วัฒนธรรม[แก้]
ดูบทความหลักที่: วัฒนธรรมอินเดีย
วัฒนธรรมร่วมสมัย[แก้]
ประเทศอินเดียมีการแต่งงานโดยการที่ผู้หญิงเป็นฝ่ายขอผู้ชายแต่งงาน
วรรณกรรม[แก้]
ดูบทความหลักที่: วรรณกรรมของอินเดีย
นาฏศิลป์[แก้]
ดูบทความหลักที่: นาฏศิลป์ของอินเดีย
อาหาร[แก้]
ดูบทความหลักที่: อาหารอินเดีย
วันหยุด[แก้]
ดูบทความหลักที่: รายชื่อวันสำคัญของอินเดีย
ขอบคุณคะ
ชัญญากัญ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น