วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

มหาวิหารพระหฤทัยแห่งมงมาทร์

มหาวิหารพระหฤทัยแห่งมงมาทร์
Basilique du Sacré-Cœur de Montmartre
Basilica of the Sacred Heart of Jesus of Paris
ตัวโบสถ์มองจากด้านล่างเนินเขา
ตัวโบสถ์มองจากด้านล่างเนินเขา
สิ่งก่อสร้าง
ฐานะมหาวิหารรอง
นิกายโรมันคาทอลิก
เสกค.ศ. 1919
ที่ตั้งกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ประเทศFlag of France.svg ประเทศฝรั่งเศส
การก่อสร้าง
แรกสุดค.ศ. 1875
สร้างเสร็จค.ศ. 1914
แบบสถาปัตยกรรมโรมัน-ไบแซนไทน์
โครงสร้างหินปูนชนิดทราเวอร์ทีน
ขนาดสูง 83 เมตร (270 ฟุต)
กว้าง 85 เมตร (280 ฟุต)
ลึก 35 เมตร (110 ฟุต)
แบบผังกางเขน
ผู้ออกแบบ/ตกแต่ง
สถาปนิกโปล อะบาดี

มหาวิหารพระหฤทัยแห่งมงมาทร์ (ฝรั่งเศสBasilique du Sacré-Cœur de Montmartre) เป็นโบสถ์และมหาวิหารรองในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของกรุงปารีส หรือที่เรียกกันว่า "มงมาทร์" สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่พระหฤทัยของพระเยซู ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของกรุงปารีส โดยถือเป็นอนุสาวรีย์ของทั้งสองด้าน คือการเมือง และวัฒนธรรมโบสถ์ได้ถูกออกแบบโดยโปล อะบาดี ซึ่งเป็นสถาปนิกชาวฝรั่งเศสที่เป็นหนึ่งใน 77 สถาปนิกผู้ชนะการประกวด เริ่มการก่อสร้างในปี ค.ศ.1875 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1914 โดยได้รับการแต่งตั้งโดยสมบูรณ์ (วางศิลาฤกษ์) ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปีค.ศ.1919 (ฝรั่งเศสBasilique du Sacré-Cœur de Montmartre) เป็นโบสถ์และมหาวิหารรองในคริสตจักรโรมันคาทอลิก ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุดของกรุงปารีส หรือที่เรียกกันว่า "มงมาทร์" สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่พระหฤทัยของพระเยซู ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวหลักของกรุงปารีส โดยถือเป็นอนุสาวรีย์ของทั้งสองด้าน คือการเมือง และวัฒนธรรม
ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ทุกวันตั้งแต่ 06.00 น. จนถึง 22.30 น. โดยสามารถเข้าชมบริเวณโดมได้ตั้งแต่ 09.00 น. จนถึงเวลา 19.00 น. หรือ 18.00 น. ในช่วงฤดูหนาว
โบสถ์พระหฤทัยยามค่ำคืน

การก่อสร้าง

รูปแบบทางสถาปัตยกรรมของโบสถ์มีความเป็นเอกลักษณ์มากในยุคนั้น โดยสถาปนิกเจ้าของโครงการ โปล อะบาดี ได้เรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบโรมัน-ไบแซนไทน์ (Romano-Byzantine) ซึ่งจัดว่าแปลกใหม่ เพื่อแสดงออกถึงการต่อต้านสถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟูบาโรก (Neo-Baroque) ดั่งที่ปรากฏที่โรงอุปรากรปาแลการ์นีเยอย่างสิ้นเชิง การออกแบบโบสถ์ได้หยิบยกสัญลักษณ์ของลัทธิชาตินิยมในสมัยนั้นมาเป็นองค์ประกอบ อาทิเช่น ประตูทางเข้า อันประกอบไปด้วยช่องโค้ง (ซุ้มประตู) 3 ช่อง ด้านบนประดับรูปสำริด ของนักบุญแห่งประเทศฝรั่งเศส คือ นักบุญโยนออฟอาร์ค และนักบุญพระเจ้าหลุยส์ที่ 9 แห่งฝรั่งเศส โดยมีระฆังหนักกว่า 19 ตัน หล่อในปีค.ศ.1895
ตัวโบสต์ก่อจากหินปูนประเภททราเวอร์ทีน ซึ่งมีเหมืองตั้งอยู่ที่เมือง ชาโต้-ลองดง ในเขตชานเมืองปารีส โดยคุณสมบัติพิเศษของหินชนิดนี้จะมีการคายแคลเซียมออกมาเป็นระยะ ทำให้คงความขาวของสิ่งปลูกสร้างได้ยาวนาน ในสภาวะภูมิอากาศต่างๆได้
ภายหลังจากการเริ่มต้นก่อสร้างส่วนฐานรากไม่นาน อะบาดี ก็ถึงแก่กรรมลงในปีค.ศ.1884 โดยได้มีสถาปนิกอีก 5 คนรับผิดชอบต่อ โดยในระหว่างการก่อสร้าง สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักลง จนเสร็จสิ้นภายหลังสงครามในปีค.ศ.1919
มูลค่าการก่อสร้างทั้งหมดคิดเป็นเงินประมาณ 7 ล้านฟรังก์ โดยมาจากเงินบริจาคทั้งสิ้น โดยผู้มีจิตศรัทธาสามารถมีส่วนร่วมในการอุทิศเงินสร้างส่วนต่างๆของโบสถ์ได้อีกด้วย และยังได้รับการสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรในสมัยนั้นให้สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างจนแล้วเสร็จ
ขอบคูณคะ
ชัญญากัญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น