วันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559

ประวัติพระราชวังหลวง

ปราสาทเอะโดะ
ภายหลังการล่มสลายรัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ จากการปฏิรูปเมจิ ส่งผลให้อดีตโชกุน โทะกุงะวะ โยะชิโนะบุ ต้องย้ายออกจากปราสาทเอะโดะ ซึ่งสมเด็จพระจักรพรรดิเมจิและราชสำนัก ก็ได้ย้ายจากพระราชวังเคียวโตะมายังปราสาทเอะโดะ ในวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1868 และจักรพรรดิเมจิก็โปรดฯให้เปลี่ยนนามปราสาท เป็น "ปราสาทโทเก" (東京城 Tōkei-jō) ซึ่งในตอนนั้น โตเกียวก็ถูกเรียกว่ากรุงโทเกด้วยเช่นกัน และในวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 1869 ปราสาทก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "ปราสาทโค" (皇城 Kōjō)[3]

พระราชวังเดิม
ในยุคเมจิ โครงสร้างแบบแปลนส่วนใหญ่ของปราสาทเอะโดะนั้นหายไป ซึ่งบางอาคารก็ถูกรื้อถอนเพื่อเปิดทางให้สามารถก่อสร้างตำหนักหรือราชมนเทียรอื่นๆ ในขณะที่บางตำหนักก็เสียหายจากแผ่นดินไหวและไฟไหม้ ซึ่งเหล่าพระราชมนเทียรที่สร้างขึ้นในสมัยเมจินั้น แทบจะทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาจากไม้ ซึ่งภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ในขณะที่ภายในมีการประยุกต์สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นเข้ากับยุโรป ซึ่งเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 19

ในปลายรัชสมัยจักรพรรดิไทโชช่วงต้นรัชสมัยจักรพรรดิโชวะ เริ่มมีอาคารบางส่วนที่สร้างด้วยคอนกรีต เช่น สำนักงานของกระทรวงพระราชวังและคณะองคมนตรี ซึ่งโครงสร้างประกอบกับองค์ประกอบแบบญี่ปุ่นเหล่านี้ช่วยให้พระราชวังดูทันสมัยมากขึ้น โดยที่ยังสามารถรักษาให้ทุกส่วนของพระราชวังสื่อถึงความเป็นญี่ปุ่นได้

ภาพพระราชวังโตเกียวในสมัยเมจิ ซึ่งต่อมาถูกระเบิดทำลายลงในสงครามโลกครั้งที่สอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น