วันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

มาริโอ้


มาริโอ้เจ้าตูบที่โชคดี


ไหนๆก็โพสต์เรื่องเจ้าตูบแล้วนะคะเอิงเลยนึกขึ้นมาได้ว่าเคยเจอเจ้าตูบตัวนึงที่สนามจันทร์ตอนนั้นเอิงพาสุดแสบที่บ้านไปเดินเล่นคะเลยไปเจอกัน สุดแสบของเอิงวิ่งเข้าไปหาเจ้าตูบตัวนึงเอิงก็ยืนดูพ่อแม่เอิงก็เริ่มคุยกับเจ้าของคะว่าน่ารักจังเลยชื่ออะไร บลาๆๆๆเจ้าของเจ้าตูบเลยเล่าว่าเมื่อก่อนเจ้าตูบไม่ได้สวยอย่างนี้หรอกคะ ถ้าได้เห็นตอนก่อนหน้านี้จะตกใจมากๆเลย พ่อแม่เอิงก็เริ่มถามต่อคะว่ามันเป็นอะไร เขาเลยเอารูปให้ดู เอิงถึงกับตาโตเลยคะเพราะมันเป็นขี้เรื้อนทั้งตัวคะเอิงนี้นับถือพี่เขามากเลยแล้วพี่เขาก็เริ่มเล่าว่ามีคนเอาเจ้าตูบแสนน่ารักตัวนี้มาทิ้งที่วัด(ดูคนเราทำสิคะใจร้ายสุดๆ)พี่เจ้าของเชาเลยเก็บมารักษาเพราะเห็นว่าป่วยตอนแรกแค่จะรักษาแต่สุดท้ายเอาเข้าจริงๆก็อย่างที่เห็นคะเขาก็เลี้ยงดูมาจนถึงทุกวันนี้ เอิงเล่ามาซะเยอะเลย555ไปอ่านดูนะคะว่าเรื่องมันเป็นมายังไง GO GO GO




เวลาเพื่อน ๆ ไปเจอสุนัขจรจัดข้างถนนที่มีสภาพไม่น่าดู ร่างกายมีแต่แผล เป็นโรคผิวหนังทั่วทั้งตัว เพื่อน ๆ รู้สึกยังไงคะ? ... สำหรับคนรักน้องหมาแล้ว เชื่อว่านั่นต้องเป็นภาพที่สร้างความรู้สึกหดหู่และสะเทือนใจมาก ๆ บางคนอยากจะช่วยเหลือน้องหมามาก แต่พอคิดถึงเรื่องของการที่จะต้องรับผิดชอบในการดูแลและค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ต้องถอดใจ เพราะไม่สามารถแบกรับภาระดังกล่าวได้ ... แต่สำหรับบางคน ถึงแม้จะรู้ว่าภาระที่ต้องแบกรับจากการช่วยน้องหมานั้นหนัก แต่เขาก็เต็มใจเพราะอยากให้โอกาสให้สุนัขเหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น

เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมานี้ ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวน่าประทับใจของสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้ตัวหนึ่งที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่วัดจนขี้เรื้อน แถมยังป่วยสารพัดโรค สุดท้ายกลับได้ชีวิตใหม่หลังจากมีหญิงสาวใจบุญคนหนึ่งรับมันไปรักษาและเลี้ยงดูจนแข็งแรง ...

วันนี้ Dogilike มีโอกาสได้พูดคุยกับ "คุณตูน" หญิงสาวใจดีที่ช่วยชีวิต "มาริโอ้" น้องหมาไซบีเรียนโชคร้ายตัวนั้นเอาไว้ เรามาติดตามเรื่องราวระหว่างคุณตูนและเจ้ามาริโอ้กันดีกว่าค่ะว่า ตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาได้เจอกันจนมาถึงวันนี้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง และคุณตูนมีวิธีดูแลมาริโอ้ยังไงให้กลับมาเป็นน้องหมาไซบีเรียนที่สดใสน่ารักได้


ครั้งแรกที่ได้พบกับมาริโอ้ ...


ตูนเจอกับมาริโอ้ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐมค่ะ ตอนนั้นตูนเอาข้าวไปให้หมาที่วัด ตอนที่ตูนเจอมาริโอ้สภาพของเขาผอมมาก เป็นขี้เรื้อเปียกและแห้งทั้งตัว แต่ตูนสังเกตเห็นว่าตาของเขาเป็นสีฟ้าซึ่งก็น่าจะเป็นน้องหมาไซบีเรียนแน่ ๆ เขาเดินมาเอาหัวสีกับขาแล้วก็ขออาหารเม็ดที่ตูนเอามาให้หมาวัดกิน พอเขากินได้ซักพักเขาก็ล้มลง คือตูนเป็นสภาพเขาแล้วตูนรู้เลยว่าเขาป่วยหนักมาก


อะไรที่ทำให้ตัดสินใจรับมาริโอ้มาดูแล




คือจากสภาพที่ตูนเห็นเขาในตอนนั้นคิดว่าเขาต้องอยู่เองไม่ได้แน่ ๆ ตูนเลยตัดสินใจอุ้มขึ้นรถแล้วเอาไปรักษาเลย ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าต้องช่วย ถ้าไม่ช่วยเขาต้องตายแน่ ๆ ตอนนั้นพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์แถวราชมรรคา แล้วก็ไประดมทุนจากโครงการช่วยเหลือน้องหมา และจากเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในพันทิป ซึ่งตอนนั้นเหมือนจะขึ้นในพันทิปว่า “ขอความกรุณาช่วยเหลือน้องไซบีเรียนที่ไม่ต่างอะไรกับซากศพ ” หลังจากขอความช่วยเหลือไปก็มีผู้ใจบุญหลายคนช่วยค่ารักษาพยาบาลมาริโอ้

สำหรับการรักษาครั้งนั้นมาริโอ้ต้องอยู่กับหมอที่โรงพยาบาลนาน 3 เดือน ระหว่างที่รักษาตูนก็จะไปเยี่ยมเขาตลอด แล้วก็จะบอกว่า "แม่ไม่ทิ้งโอ้นะ" ก็คือ เราพูดอย่างนั้นเพื่อให้เขามีสุขภาพดี แล้วเราก็จะพาเขาวิ่งเล่นที่สวนในโรงพยาบาล เพื่อให้เขารู้สึกว่าเรารักเขา เราไม่ทิ้งเขา แล้วตูนก็เชื่อว่าหมอให้ยาให้อะไรอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าหมาสุขภาพจิตดี ถ้าเขามีความสุขมันส่งผลมากกว่ายา ก็เลยหมั่นไปเยี่ยมจนจากตอนแรกที่เข้าโรงพยาบาลหมอบอกว่าเขาเป็นขี้เรื้อนเปียก ขี้เรื้อนแห้ง พยาธิในเม็ดเลือด ติดเชื้อในกระแสเลือด แล้วก็ค่าเม็ดเลือดขาวต่ำ ตรวจเลือดมาแล้ว เม็ดเลือดแดงต่ำกว่าเลือดเม็ดเลือดขาว เลือดเขาค่อนข้างที่จะใสมาก คุณหมอพูดเลยว่าดูแล้วโอกาสรอดก็ 50 50 วันนั้นตูนเลยพูดกับมาริโอ้ว่า "แม่ไม่ทิ้งหนูนะ" แล้วก็หมั่นไปเยี่ยมเขาทุก ๆ วัน

ตูนก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นห่วงเขามาก พอไม่ไปเยี่ยมก็ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่ได้ไหม แต่ดีที่เขาฟื้นตัวเร็ว เนื่องจากสภาพจิตใจของเขาดี แล้วเราก็ไม่รังเกียจก็หอมกอดเขาเหมือนเขาไม่ได้เป็นขี้เรื้อน ก็คิดว่าพอเราถ่ายทอดความรักแล้วเขารับรู้ทุกอย่างส่งผลให้สุขภาพเขาฟื้นตัวได้เร็ว และในที่สุดตูนก็รับเขากลับมาดูแลที่บ้านค่ะ พอมาริโอ้ออกจากโรงพยาบาลทางโครงการเขาก็โอนค่ารักษามาให้หมอประมาณ 50,000 กว่าบาทแล้วก็ส่วนที่เหลือเขาก็จะตัดค่ารักษาไปเรื่อยทุกอาทิตย์ แล้วเราก็จะเอาใบเสร็จมารายงานการรักษาผ่านทางพันทิปและเฟสบุ๊ค 

การพามาริโอ้กลับมาดูแลที่บ้านจะต้องระวัดระวังในการดูแลมาก ๆ เพราะโรคที่เขาเป็นคือโรคขี้เรื้อนถ้าดูแลไม่ดีก็จะสามารถกลับมาเป็นได้อีก ช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา มาริโอ้เป็นโรคนี้ประมาณ 3 ครั้ง ดังนั้นพอเขาเริ่มมีขี้เรื้อขี้นเราก็จะรีบรักษาทันทีไม่รอให้เป็นเยอะ จนตอนนี้มาริโอ้ไม่มีขี้เรื้อนขึ้นแล้ว ตูนคิดว่ามันไม่ใช่แค่การดูแล แต่มันต้องบวกกับความรักและให้ความสุขที่สุดกับเขาด้วย ทำให้เขามีชีวิตอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ค่ะ


เริ่มหาบ้านใหม่ให้มาริโอ้ ...



ตอนแรกตูนไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงมาริโอ้เอาไว้เอง แต่ตั้งใจว่าจะดูแลจนกว่าจะแข็งแรกแล้วก็หาบ้านใหม่ให้เขา ช่วงแรกที่หาบ้านให้มาริโอ้ตอนนั้นเขาหายป่วยดีแล้วแต่ขนยังไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ตูนก็ตัดสินใจหาบ้านให้เขา โดยจะมีกฏระเบียบคือ ถ้าใครสนใจอยากจะรับเลี้ยงมาริโอ้ก็ให้ส่งรูปบ้านมาให้ดูก่อน ถ้าเราเห็นว่าโอเคก็จะติดต่อขอเบอร์โทรศัพท์และให้มาเจอมาริโอ้ที่บ้าน มาเรียนรู้นิสัยใจคอ มาดูว่าสภาพของมาริโอ้เป็นแบบนี้จะรับได้หรือไม่ ถ้าเขาโอเคตูนก็จะพามาริโอ้ไปเที่ยวบ้านเขา เพื่อไปดูว่าบ้านเขาพร้อมจริงไหม

ส่วนเมื่อถึงเวลาส่งมอบ ตูนก็จะทำสัญญาอุปการะ ถ้าเลี้ยงไม่ได้ก็ต้องส่งหมาคืนเรา ห้ามปล่อย ห้ามทิ้ง ห้ามให้คนอื่น เจ็บป่วยต้องรักษา ตอนนั้นมีคนติดต่อมาขอมาริโอ้เยอะมาก ตูนก็คัดเลือกจนเหลือประมาณ 10 กว่าคน และก็นัดให้เขามาเยี่ยมมาริโอ้ มาดู มาคุยกันเรียบร้อยแล้ว คนที่ หนึ่ง สอง สาม ที่เราตัดรอบแรกสุดท้ายเขาก็ไม่มา เหมือนกับว่าเขาไปอ่านข้อมูลมาริโอ้เยอะ ๆ ว่าเป็นโรคนั้นโรคนี้ เป็นทั้งภูมิคุ้มกันบกพร่องแล้วก็อาจจะกลับมาเป็นขี้เรื้อนได้อีก เขาก็เลยปฏิเสธกัน ตูนหาบ้านให้มาริโอ้อยู่นานหาจนปลายปีของปี 2555 คือส่วนใหญ่มาดูแล้วรับนิสัยมาริโอ้ไม่ได้เพราะมาริโอ้เป็นหมาที่ไฮเปอร์มากกระโจนใส่ กัดของ ทำลายของ กัดนก แกล้งหมาตัวอื่นในคอก บวกกับมาริโอ้มีโอกาสที่จะป่วยได้ง่ายอีกก็เลยไม่มีใครมารับไปเลี้ยง เพราะเขาคงกังวลว่าถ้ามาดูแล้วรับไป อาจจะดูแลไม่ไหวในระยะเวลาต่อมา


เมื่อหาบ้านให้ไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจเลี้ยงเองและดูแลอย่างดี


พอหาบ้านให้เขาไม่ได้ ตูนก็เลี้ยงตัดสินใจเลี้ยงมาริโอ้เอาไว้เอง ก็เลี้ยงเอาไว้กับน้องหมา น้องแมวตัวอื่น ๆ ที่เก็บมาเลี้ยง ... แต่ช่วงปีแรกที่เอามาริโอ้มาเลี้ยงเขาจะเป็นขี้เรื้อนบ่อยมากเป็นประมาณ 3-4 ครั้ง พอเป็นแล้วก็จะขึ้นเป็นเม็ด เป็นตุ่มแล้วก็แดง แล้วก็มีเลือดไหลตามรูขุมขน เป็นเหมือนขี้เรื้อนเปียกเป็นตุ่มแล้วปะทุแตก ตูนก็ให้เขากลับไปกินยา แล้วก็เอากลับไปรักษาที่โรงพยาบาล แล้วก็ทางโรงพยาบาลเก่าก็แนะนำให้ลองไปตรวจกับที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตรว่ามาริโอ้แพ้อะไรกันแน่เพราะว่าไม่หายสักทีช่วงปีแรก

พอเริ่มไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์เกษตร คุณหมอก็บอกว่าต้องเคลียร์เรื่องขี้เรื้อนให้ได้ก่อนว่ามาริโอ้แพ้อะไร ก็กินยาอยู่ ประมาณ 3-4 เดือนแล้วก็หาย คุณหมอเลยบอกว่าไม่น่าแพ้อะไรแล้ว แต่ให้งดเนื้อไก่ หลังจากการรักษาช่วงแรกก็มีคนส่งน้ำมันปาล์มและอาหารเสริมต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงร่างกายและช่วยให้ผิวหนังฟื้นตัว มาริโอ้ก็เลยดีขึ้น แต่ตั้งแต่ปีแรกมาริโอ้กินยามาเยอะเลยทำให้ตับของเขาไม่ดี เราก็ต้องเริ่มเปลี่ยนมาหยดยา ฉีดยาใต้ผิวหนัง ให้น้ำเกลือ แล้วอาการโรคผิวหนังก็หายสักพักใหญ่ ๆ แล้วก็มาเป็นโรคประเพาะปัสสาวะอักเสบอีกทีหนึ่ง ตอนนั้นตูนสังเกตเห็นว่าเขาไม่กินข้าวไม่รู้เป็นอะไร ก็พาไปหาหมอก็กินแต่ยาฆ่าเชื้อ กินไปแต่ก็ยังหาสาเหตุไม่ได้ หมอก็เลยขอตรวจปัสสาวะ ผลออกมาก็คือปัสสวะอักเสบ หมอก็ให้เคลียร์ตรงกระเพาะปัสสวะอักเสบ ซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ตูนก็ใช้เงินบริจาคของมาริโอ้ที่เหลืออยู่ในบัญชีรักษาเขา แล้วก็มีพี่คนหนึ่งส่งเงินมาเพื่อให้ไปซื้ออาหารรักษาโรคนิ่วของยี่ห้อรอยัล คานิน พอมาริโอ้หายอีกเดือน 2 เดือน เขาก็มีอาการอึดำ ไม่กินข้าว ซึม ๆ เอาไปตรวจอีกหมอก็หาสาเหตุไม่ได้ พออึอีกทีมีเลือดปนก็พาไปหาหมออีกรอบ หมอหาสาเหตุไม่ได้เลยตัดสินใจเอามือล้วงเข้าไป เลยรู้ว่าเป็นมะเร็ง มีเนื้อร้ายทีหูรูดทวาร แล้วหมอก็ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ปรากฏว่าเนื้อที่ตรวจเป็นเนื้อร้ายเป็นมะเร็ง

พอรู้ว่าเขาเป็นมะเร็งตูนก็เครียดนะคะ เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นหนัก แล้วก็เป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วย คือค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ตูนก็เลยตัดสินใจระดมทุนในการรักษามาริโอ้ เอาของมาประมูลผ่านทางเฟซบุ๊ค ตอนนั้นมีหลายคนมาก ๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเรา มีอยู่คนหนึ่งเขารู้ว่าตูนช่วยเหลือหมาแมวจรจัดเขาก็โอนเงินมาให้เลย 7,000 เราก็เอาเงินไปใช้จ่ายค่ารักษาผ่าตัดมะเร็งหูรูดใมห้มาริโอ้ ส่วนเงินที่เหลือจากการผ่าตัดก็เอาไปซื้ออาหารให้มาริโอ้กับน้องหมาน้องแมวตัวอื่น ๆ ซึ่งพวกค่าใช้จ่ายนี้ปกติตูนก็จะแจ้งบัญชีค่าใช้จ่ายตลอดเพื่อความสบายใจของผู้ที่บริจาคเงินช่วยเหลือน้องหมาทุกคน


ค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับในการช่วยเหลือน้องหมาน้องแมว


ตูนไม่ค่อยได้คิดเรื่องเงินนะคะ คือถ้าข้าวหมดเราก็ซื้อ ตูนจะซื้อข้าวสารกับอาหารเม็ดแล้วก็อาหารสุนัขแช่แข็งเอามาต้มคลุกรวมกัน บางทีก็จะซื้อเศษเนื้อปลาแซลมอนชิ้นเล็ก ๆ มาต้มให้มาริโอ้กิน ... แต่ในบางเดือนที่ช็อตมาก ๆ ตูนก็จะแบ่งเงินที่ใช้รักษาน้องหมามาเป็นค่าอาหาร หรือถ้ามีเพื่อน ๆ เมตตาเขาก็จะโอนเงินมาช่วย ตูนก็จะแจกแจงบัญชีให้เพื่อน ๆ ที่บริจาคเงินได้ทราบว่าเราใช้เงินไปเท่าไหร่ แต่ตูนก็ไม่ได้ขอระดมทุนทุกเดือนนะคะ ก็จะใช้เฉพาะช่วงที่เราไม่มีเงินจริง ๆ


คิดยังไงกับ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์

ตูนคิดว่าดีนะคะ เพราะกฏหมายค่อนข้างที่จะครอบคลุมและช่วยเหลือสุนัขหมาแมวได้ดีกว่า พ.ร.บ. เดิม แล้วก็มีการตราใช้เป็นกฏหมาย แล้วคนสามารถช่วยเหลือสัตว์ได้ดีกว่ากฏหมายเดิม เพราะว่ากฏหมายเก่าอยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ อย่างถ้าเจ้าของทำร้ายหมา โมโหที่หมากัดไก่ ในสายตาคนรักหมาคิดว่ามันทารุณแล้ว แต่ถ้าเราไปแจ้งความเจ้าหมาที่อาจมองไปว่าการกระทำอย่างนี้ไม่ทารุณ เป็นวิธีการเลี้ยง แล้วตามกฏหมายหมาเป็นทรัพย์สิน การทารุณของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่พอกฏหมายนี้ตราขึ้น คือการที่ทำอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการทารุณกรรมในสายตาเรา แล้วกฏหมายมันมากกว่าเดิม ก็จะครอบคลุมในส่วนของเจ้าของทำร้ายหมาเข้าไปด้วย แล้วบางคนเลี้ยงหมาเพื่อที่จะข่มขืนสนองความต้องการทางเพศ ถามว่าตำรวจทำอะไรได้ไหม ทำได้ถ้าจะทำ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว หมาคือทรัพย์สิน แต่กฏหมายบังคับใช้การทำเช่นนี้ก็จะเข้าข่ายการทารุณกรรม อยากให้กฏหมายประกาศใช้เร็ว ๆ จังเพราะอย่างน้อยมันทำให้คนคิดหน้าคิดหลังที่จะหาประโยชน์กับสัตว์ และคิดที่จะทำร้ายสัตว์


สุดท้ายนี้อยากฝากอะไรถึงคนที่กำลังคิดจะเลี้ยง และกำลังเลี้ยงน้องหมาอยู่


ถ้าคุณจะเลี้ยงหมาพันธุ์คุณก็ควรจะศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์นั้น ๆ ก่อนตัดสินใจเลี้ยงว่าน้องหมาพันธุ์นั้นมีนิสัยเป็นอย่างไร อย่าง ไซบีเรียน เวลาเรามองก็จะมองว่าคนเลี้ยงไซบีเรียนดูดีดูสง่า แล้วเรารู้สึกว่าเราเลี้ยงไม่ได้หรอก แล้ววันหนึ่งเอาเขามาเราไม่รู้หรอกว่าไซบีเรียนมันซน ปีน ทำลายของ เราต้องรับนิสัยนี้ของเขาให้ได้ ดังนั้นใครสักคนที่คิดจะเลี้ยงหมาให้คิดเยอะ ๆ โดยเฉพาะหมาพันธุ์ว่าพวกเขามีลักษณะนิสัยอย่างไร ถ้าคุณโอเค รับตรงนี้ได้ ค่อยตัดสินใจที่จะเลี้ยง แต่ถ้าคุณลังเลไปลองเลี้ยงหมาไทยก่อน แล้วคุณจะหลงเสน่ห์หมาไทย เพราะหมาไทยมีอะไรหลาย ๆ อย่างที่หมาบางพันธุ์ก็สู้ไม่ได้ อย่างเรื่องความซื่อสัตย์ ความรักเจ้าของ เลี้ยงง่าย ปัญหาโรคไม่ค่อยมี ดูแลง่ายกว่าหมาพันธุ์ แล้วก็เรื่องโรคผิวหนัง ก็มีหลายคนเข้ามาปรึกษาเราว่าถ้าถ้าเป็นโรคแบบนี้ต้องทำอย่างไร เราก็เขียนคุยกับเขาว่า ต้องใจเย็นนะ คุณเชื่อไหมว่าพลังความรักมันมีค่ามากกว่ายาแล้วก็อาหารนะ คุณพาเขาไปรักษา คุณเคยคิดที่จะกอดเขาไหม บอกให้เขารู้ว่าคุณรักเขา คุณไม่รังเกียจ ตูนเชื่อว่าหมาทุกตัวก็เหมือนกับคนเมื่อมันมีสารแห่งความสุขมันก็จะหลั่งสารตรงนั้นมา ทำให้มีภูมิคุ้มกันที่ดี ตูนเชื่อย่างนั้นนะ แล้วส่วนอาหารเนี่ย อย่างไก่นี่ไม่ควรกิน ก็ควรให้น้องกินปลา ถ้ากินอาหารเม็ดก็ให้กินสูตรที่ไม่มีเนื้อไก่ หรืออาหารสูตรโฮลิสติก ดูแลสุขภาพสุนัข แต่ถ้าน้องติดข้าว อาจหุงข้าวกล้องคลุกกับปลาต้มกับผักให้น้องกินสักเดือนหนึ่ง หรือให้น้องกินน้ำมันปลา แล้วใช้น้ำมันมะพร้าวทาผิว ทาตัวเขาให้น้ำมันมันขึ้นที่ร่างกายก็อาจทำให้ขนขึ้นเร็วขึ้น แล้วก็อย่ารังเกียจ หมั่นอาบน้ำเป่าให้แห้ง คือเราให้กำลังใจทุกคนที่เขียนมาถามว่า จะต้องทำอย่างไรกับหมาของเขา แล้วก็มีบางเคสจะทิ้งหมา เพราะมีปัญหากับแฟน เราก็บอกว่า แฟนเนี่ยอยู่กับเราไม่นานหรอกนะ ถ้าเขาเจอสิ่งที่ดีกว่าเขาอาจจะไปก็ได้ แต่หมาจะอยู่กับเราไม่ทิ้งเราไปสิบยี่สิบปี ถึงวันหนึ่งเขาเจอสิ่งที่ดีกว่าเขาก็ไม่ไปจากเรา ... ดังนั้นต้องจำไว้เสมอว่า สำหรับน้องถ้าเราไม่มีเขาเราอยู่ได้ แต่ถ้าเขาไม่มีเราเขาอยู่ไม่ได้นะ คือ เราควรจะมองดวงตาของพวกเขา ไม่ว่าเราจะตีเขา เราจะยังเห็นดวงตาของเขามีเราในดวงตา เพราะฉะนั้นรักเขาไปเถอะค่ะแล้วเขาจะมอบความรักกลับมาให้คุณทั้งชีวิตเลย

ได้อ่านเรื่องราวของเจ้ามาริโอ้และคุณตูนแล้ว ต้องบอกว่าความรักเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริง ๆ นะคะ สามารถเปลี่ยนชีวิตน้องหมาตัวหนึ่งที่กำลังจะตายให้กลับมามีชีวิตที่สดใสได้อีกครั้ง ... นี่ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้ได้เห็นแล้วว่า สำหรับน้องหมาความรักจากผู้เลี้ยงนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและสามารถช่วยเยียวยาความเจ็บป่วยทั้งทางกายและทางใจให้กับน้องหมาได้เป็นอย่างดี และจะเป็นการดีมากถ้าหากความรักความเมตตานั้นยังเหลือเผื่อแผ่ไปถึงน้องหมาไร้บ้านไร้เจ้าของตัวอื่น ๆ ด้วย



เป็นไงล่ะคะพี่เขาใจดีใช่ไหมล่ะ เอิงเองยังรู้สึกดีเลยถึงแม้จะรู้เรื่องจากปากเจ้าตัวแล้วก็ตามพอมาอ่านอีกทีก็ยังรู้สึกดีอยู๋เลย มันดูเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่เลยนะคะกับการต่อชีวิตเจ้าตูบตัวนี้ ลองคิดดูนะคะว่าถ้าพี่เขาไม่เก็บมาดูแลเจ้าตูบจะเป็นยังไง....ใช่คะถูกเลยเจ้าตูบต้องตายแน่นอนถึงไม่ตายก็อยู่อย่างทรมาน ไหนจะนึกถึงเจ้าของ ไหนจะอาการป่วย โอ้ยยแค่คนเราเป็นหวัดทียังจะแย่เลยคะแล้วเจ้าตูบเป็นขนาดนี้คิดเอาล่ะกันคะว่ามันจะหนักขนาดไหน แต่ก็รู้สึกดีนะคะที่ยังเห็นคนในประเทศเรามีจิตใจที่ดีอยู่บ้าง ใครอยากเจอเจ้าตูบก็ไปสนามจันทร์บ่อยๆนะ555เจ้าตูบจะมาวิ่งกับเจ้านายบ่อยๆ












ขอบคุณคะ
ชัญญากัญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น